“ช้างศึก” ปัญหาอยู่ที่เวลา หรือที่คน!!! / แมวดำ

คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

การแข่งขันฟุตบอล AFC U23 ASIAN CUP 2022 รอบคัดเลือก จบลงไปแล้ว โดยได้ 16 ทีม ไปแข่งขันกันที่ประเทศอุซเบกิสถาน ปีหน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทีมชาติไทย ชุด U23 ภายใต้การบริหารงานของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กับ “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ และ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ รับบททีมงานผู้ฝึกสอน ผ่านเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 ผลงานดีที่สุด

หลังเกมก็มีประเด็นดราม่าตามสไตล์ไทยแลนด์ฟุตบอลเรื่องคำพูดของ “โค้ชโย่ง” ที่มักพูดแบบตรงไปตรงมา ฟังดูแล้วบ้านๆ ไม่ว่าจะเรื่องวิ่งแก้บน หรือเรื่องความเชื่อส่วนตัวที่แกบอกว่าการเข้ารอบถูกกำหนดไว้แล้ว ฯลฯ ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นสไตล์ของเขา เขาเป็นมาแบบนี้นานแล้ว คนชอบก็มี แต่คนไม่ชอบก็เยอะ เพียงแต่ต้องมองที่ตัวเนื้องาน การคุมทีมเสมอ มองโกเลีย 1-1, ชนะ สปป.ลาว 3-0 และ เสมอ มาเลเซีย 0-0 นั้นมองเผินๆ อาจดูน่าผิดหวัง

หากแต่เมื่อลองมองลึกๆ ลงไปเวลาเตรียมทีมน้อยนิด นักกีฬาต่างคนต่างมา จากลีกยุโรป 3 คน ลีกในประเทศที่ล้วนแต่อยู่ในระดับ ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 มาร่วมทีมแข่งขันสนามหญ้าเทียมที่วิ่งไป เจ็บไป เทียบกับ มาเลเซีย U23 ที่เขาเล่นร่วมกันมาตั้งแต่ทีม U19 แถมยังมีโค้ชชาวออสเตรเลียคนเดิมคนเดียวคุมตั้งแต่ต้น การครองบอล การเข้าทำ ความเข้าใจเกม มันต่างกันอยู่แล้วแหละครับ ต้องทำใจ ไม่แพ้ก็บุญแล้ว

ขณะที่อนาคตข้างหน้าต้องเตรียมทีมกันต่อสำหรับไปแข่งขันรอบสุดท้ายที่อุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 1-19 มิถุนายน 2565 ซึ่งพอดูปฏิทินแล้วมันดันไปคาบเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 แข่งขันในวันที่ 8-15 มิถุนายน 2565 ซึ่งทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ต้องลงมาแข่งขันด้วย แหม…เห็นแล้วปวดหัวแทน “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติทั้ง 2 ชุดเลยว่า ผู้เล่นบางคนฝีเท้าดี และอายุน้อย เล่นได้ทั้ง 2 ชุด อาทิ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, เบนจามิน เดวิส, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตกลงจะแบ่งไปช่วยทีมชุดไหนอย่างไรดี

แต่เรื่องนั้นยังมาไม่ถึง เอาใกล้ๆ เรื่องด่วนๆ คือ การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ งานนี้ “ช้างศึก” ชุดใหญ่ จะมากับสไตล์รุกบุกแหลกภายใต้การคุมของ มาโน โพลกิ้ง ก่อนหน้าบอกมีเวลาเตรียมทีมก่อนแข่ง 7 วัน ล่าสุดหลังมีการหารือกันขยับเพิ่มได้ 3 วัน รวมแล้ว 10 วัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การคว้าแชมป์

หากเป็นชาติที่ฟุตบอลเขามีระบบที่ดี 5 วัน 7 วัน ก็ไม่ใช่ปัญหา เห็นยุโรป เขาลุยเกมทีมชาติกันปกติ แต่บ้านเรามีฝ่ายบริหารที่บางคนก็เคยทำงานองค์กรฟุตบอลระดับเอเชีย บางคนก็เคยเป็นข้าราชการระดับสูง แต่ไหงกลายเป็นแบบนี้ บางทีก็คิดว่าเขาก็ตั้งใจทำออกมาให้ดีนี่แหละ เพียงแต่แอบคิดอีกมุมว่า บริหารมาตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว ปัญหาเดิมๆ เรื่องเงื่อนเวลายังแก้ไม่ได้ หรือมันเป็นเพราะคนบริหารไม่เป็นกันแน่…