Thailand Sport Magazine Sponsored

ตัดเกรดทัพซีเกมส์ไทย “สอบได้VSสอบตก”

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

ตัดเกรดทัพซีเกมส์ไทย “สอบได้VSสอบตก”

รูดม่านปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว มหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 “ฮานอยเกมส์” ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคมที่ผ่านมา

“ฮานอยเกมส์” ถือเป็นการรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพครั้งที่ 2 ของเวียดนาม แต่ครั้งนี้จัดคร่อมปีจากเดิมต้องจัดในปี 2021 แต่ติดปัญหาเรื่อง “โควิด-19” จึงเลื่อนมาจัดในปี 2022

เดิมทีหลายชาติสงสัยว่าเวียดนามจะเอาตัวรอดจากการเป็นเจ้าภาพหนนี้ได้หรือไม่ และเวียดนามจัดซีเกมส์ออกมาอย่างไร

แต่ปรากฏว่า เวียดนามจัดแข่งขันโดยไม่สนใจ “โควิด-19” หลังจากรัฐบาลของเขาประกาศให้ “โควิด-19” เป็นโรคประจำถิ่นไปเรียบร้อย

ในแง่ของมาตรฐานการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ต้องยอมรับกันตามตรงว่า เวียดนาม ยัง “สอบตก” ทั้งในเรื่องของมาตรฐานสนามแข่งขัน การจัดแบบกระจายตามเมืองต่างๆ

โดยไม่มีระบบคมนาคมขนส่งที่ดีพอจึงเกิดเสียงบ่นของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ รวมถึงสื่อมวลชนจากทุกชาติ
แต่เวียดนามยึดมั่นในรูปแบบที่พวกเขาวางไว้ แถมวันสุดท้ายพวกเขาแถลงความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพพร้อมๆ กับการมองไปถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ว่ากันในแง่ผลงานนักกีฬาเจ้าภาพในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 พวกเขาโกยไปแบบมโหฬาร 205 ทอง 125 เงิน และ 116 ทองแดง

ตามมาด้วยอันดับ 2 ทีมชาติไทย คว้าไปได้ 92 ทอง 102 เงิน และ 138 ทองแดง ส่วนอันดับ 3 เป็นของอินโดนีเซีย คว้าไปได้ทั้งสิ้น 69 ทอง 91 เงิน และ 81 ทองแดง

อันดับ 4 เป็นของ ฟิลิปปินส์ คว้าไป 52 ทอง 70 เงิน 104 ทองแดง / อันดับ 5 สิงคโปร์ คว้าไป 47 ทอง 46 เงิน 73 ทองแดง / อันดับ 6 มาเลเซีย คว้าไป 39 ทอง 45 เงิน 90 ทองแดง / อันดับ 7 เมียนมา คว้าไป 9 ทอง 18 เงิน 35 ทองแดง / อันดับ 8 กัมพูชา คว้าไป 9 ทอง 13 เงิน 41 ทองแดง / อันดับ 9 ลาว คว้าไป 2 ทอง 7 เงิน 33 ทองแดง / อันดับ 10 บรูไน คว้าไป 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง / อันดับ 11 ติมอร์เลสเต คว้าไป 3 เงิน 2 ทองแดง

กลับมาที่ผลงานนักกีฬาไทยในซีเกมส์คราวนี้ทำไป 92 ทอง 102 เงิน 138 ทองแดง ถือว่า “สอบตก” เพราะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตั้งเป้าไว้ที่ 112 เหรียญทอง
ทัพไทยเราพลาดไป 20 เหรียญทอง แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ชนิดกีฬาสากลที่มีแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ของไทยคราวนี้สอบผ่านคว้าเหรียญทองได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้

โดยเฉพาะกลุ่มกีฬาหลักอย่าง กรีฑา, ว่ายน้ำ, จักรยาน, เทควันโด, เทเบิลเทนนิส, แบดมินตัน, เทนนิส, ยกน้ำหนัก, ยิมนาสติก

เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นนักกีฬาไทยทำผลงานอย่างน่าประทับใจในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 อาทิ “บิว” ภูริพล บุญสอน นักกรีฑาวัย 16 คว้ามาถึง 3 ทอง จาก วิ่ง 100 เมตรชาย, วิ่ง 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย, จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน นักวิ่งระยะกลาง ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 19 ปี คว้า 4 ทอง จากวิ่งผสม 4×400 เมตร, 400 เมตรชาย, 800 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4×400 เมตรชาย, “ทิพย์”  อรวรรณ พาระนัง นักเทเบิลเทนนิสหญิง มือ 112 โลก วัย 24 ปี คว้าคนเดียว 3 ทอง จากประเภทหญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และทีมหญิง, “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด นักว่ายน้ำหญิงของไทย คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง จากฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง กับผีเสื้อ 50 เมตรหญิง, “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม นักสอยคิววัย 52 อดีตมือ 3 ของโลก มาแข่งขันซีเกมส์ครั้งแรกในชีวิตช่วยคว้าเหรียญทองโทนให้ทีมคิวสปอร์ตไทยจากสนุกเกอร์ 15 แดง

เมื่อพิจารณาภาพรวมผลงานนักกีฬาไทยแต่ละสมาคมกีฬาปรากฏว่า มี 11 ชนิดกีฬาทำผลงานได้เกินเป้าหมาย และ 5 กีฬาทำผลงานได้ตามเป้าหมาย ขณะที่อีก 25 ชนิดกีฬาทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
กลุ่มกีฬาที่ทำผลงานได้เกินเป้าหมาย ประกอบด้วย ยกน้ำหนัก 6 ทอง 5 เงิน 1 ทองแดง / ตะกร้อ 6 ทอง / เทควันโด 5 ทอง 4 เงิน 3 ทองแดง / ว่ายน้ำ 4 ทอง 9 เงิน 9 ทองแดง / เทเบิลเทนนิส 4 ทอง 3 เงิน 2 ทองแดง / เทนนิส 4 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง / แบดมินตัน 4 ทอง 2 เงิน / เปตอง 4 ทอง 2 ทองแดง / จักรยาน 3 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดง / ยิมนาสติก 3 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง / ปันจักสีลัต 2 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดง

กลุ่มกีฬาที่ทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย กรีฑา 12 ทอง 11 เงิน 8 ทองแดง / เพาะกาย 3 ทอง 3 เงิน 3 ทองแดง / บิลเลียด 1 ทอง 8 ทองแดง / วอลเลย์บอล 2 ทอง 1 เงิน / ฟุตซอล 2 ทอง
กลุ่มกีฬาที่ผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย มวยสากล 4 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง / แคนู-คยัค 3 ทอง 6 เงิน 6 ทองแดง / มวยไทยสมัครเล่น 3 ทอง 4 เงิน 4 ทองแดง / ยิงปืน 3 ทอง 2 เงิน 10 ทองแดง / ลีลาศ 2 ทอง 6 เงิน 4 ทองแดง / คิกบ็อกซิ่ง 2 ทอง 4 เงิน 6 ทองแดง / อีสปอร์ต 2 ทอง 1 เงิน 3 ทองแดง / กอล์ฟ 2 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง / บาสเกตบอล 2 ทอง 1 ทองแดง / ยูโด 1 ทอง 2 เงิน 6 ทองแดง / ยิงธนู 1 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง / คูราช 1 ทอง 1 เงิน 5 ทองแดง / ยูยิตสู 1 ทอง 1 เงิน 3 ทองแดง มวยปล้ำ 5 เงิน 6 ทองแดง / คาราเต้ 4 เงิน 5 ทองแดง / ฟันดาบ 3 เงิน 7 ทองแดง / เรือพาย 2 เงิน 5 ทองแดง / ฟินสวิมมิ่ง 2 เงิน 5 ทองแดง / โววีนั่ม 2 เงิน 3 ทองแดง / แฮนด์บอล 2 เงิน 1 ทองแดง / ฟุตบอล 2 เงิน / วูซู 1 เงิน 2 ทองแดง / โบว์ลิ่ง 1 เงิน / กระโดดน้ำ 1 ทองแดง / หมากรุก 1 ทองแดง
ชนิดกีฬาใหญ่อย่างฟุตบอลชาย-หญิงของไทย พลาดแชมป์ให้ “เจ้าภาพ” เวียดนาม แบบเรียบวุธ โดยเฉพาะฟุตบอลชายซึ่งเป็นเหรียญแห่งศักดิ์ศรี เป็นเหรียญทองเหรียญใหญ่เป็นหน้าเป็นตาของวงการกีฬาเมืองไทย ทีม “ช้างศึก” พลาดให้เวียดนามอีกครั้ง

นี่จึงเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ผู้เกี่ยวข้องของ 25 ชนิดกีฬาที่ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานต้องกลับมานั่งทบทวน วางแผนเตรียมนักกีฬา เตรียมความพร้อมกันใหม่เพราะในห้วงเวลานับจากนี้ไปหลังจบซีเกมส์ ครั้งที่ 31

ทัพนักกีฬาไทยยังคงมีภารกิจจะต้องเข้าร่วมชิงชัยอีก 3 มหกรรมใหญ่ๆ นั่นคือ  ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566 ต่อด้วย  เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งเลื่อนไปแข่งขันต้นปี 2566 รวมไปถึง เอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรงในตำแหน่งประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย บอกว่า หากนับเฉพาะกีฬาสากล ทัพไทยทำไปได้ 64 เหรียญทอง จากยอดเหรียญรวมที่ทำไป 92 เหรียญทอง เป็นอันดับ 2 ทั้ง 2 ส่วน ซึ่งจำนวนเหรียญกีฬาสากล ถือว่าใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ 72 เหรียญทอง ขณะที่เวียดนาม เป็นอันดับ 1 ทั้งกีฬาสากล ทำไป 100 เหรียญทอง และยอดเหรียญรวมได้ไป 205 เหรียญทอง สำหรับกีฬาสากลในซีเกมส์ครั้งนี้ สามารถแยกออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรก เป็นกีฬาที่นับคะแนน และทำสถิติ ซึ่งทั้ง แบดมินตัน, เทเบิลเทนนิส, เทนนิส, มวยสากล ต่างทำได้ดี ทำได้กีฬาละ 4 เหรียญทอง ยังมีกรีฑา, ยิมนาสติก, ว่ายน้ำ ที่พัฒนาได้ดีเช่นกัน อีกส่วนเป็นกีฬาที่ตัดสินด้วยสายตา และมีการแบ่งรุ่นน้ำหนัก ซึ่งเป็นปัจจัยที่แตกต่างจากส่วนแรกมาก ทั้งการตัดสินที่ไม่แน่นอน และจำนวนรุ่นที่บางครั้งไม่ตรงกับในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ก็มี ดังนั้นการทำได้ขนาดนี้ถือว่าน่าพอใจ

ผู้ว่าการ กกท.บอกอีกว่า กกท.ยังคงเต็มที่เรื่องการเตรียมทัพนักกีฬาไทยให้พร้อมมากที่สุด ซีเกมส์ครั้งหน้าที่ประเทศกัมพูชา จำนวนนักกีฬาไทยจะเพิ่มขึ้น เราจะพยายามเน้นที่สุดเพิ่มนักกีฬาในชนิดกีฬาสากลให้มากที่สุด ซีเกมส์คราวนี้เราเห็นความไม่พร้อมต่างๆ แต่เราจะเอาข้อบกพร่องเหล่านี้ มาปรับใช้ในซีเกมส์ 2025 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ เราจะนำมาเป็นบทเรียน

“ภาพรวมแม้ว่าเราจะทำผลงานได้ต่ำว่าเป้าที่ตั้งไว้ 112 เหรียญทอง แต่เราพอใจที่เห็นชนิดกีฬาหลัก กีฬาสากล นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองได้เป็นจำนวนมาก เราทำได้ 92 ทอง แต่ในซีเกมส์ปีหน้าที่กัมพูชา เราจะพยายามคว้าเหรียญทองให้ได้มากกว่า 100 เหรียญทอง” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

ซีเกมส์ 2021 ปิดฉากไปแบบการเอาตัวรอดของเวียดนาม และทุกๆ ชาติในอาเซียนท่ามกลางมรสุม  “โควิด-19” 

แล้วพบกันใหม่ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.