“สมาคมตระหนักและให้ความสำคัญกับความพร้อมจึงได้มีการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแต่ละชนิดร่วมกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ด้วยการกระจายความรับผิดชอบแต่ละชนิดกีฬาไปตามศูนย์ฝึกต่างๆซึ่งในการฝึกซ้อมนักกีฬาแต่ละศูนย์ที่รับผิดชอบก็จะดำเนินการตามระบบที่เกี่ยวข้องทั้งด้าน รูปแบบการฝึก เทคนิค และวิทยาศาสตร์การกีฬาที่สอดคล้องกับระบบสากลภายใต้งบประมาณที่ได้รับจัดสรร”
ดร.วิศิษฐ์ กล่าวต่อไปว่าหากจะมองถึงโอกาสและความหวังในชนิดกีฬาต่างๆในฐานะจังหวัดเจ้าภาพก็คงมองย้อนกลับไปจากการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา นักกีฬาจังหวัดพัทลุงสามารถสร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลอยู่ในอันดับที่ 19 ของตารางเหรียญรวม และอยู่ในอันดับที่ 4 ของภาคใต้ ดังนั้นชนิดกีฬาที่เป็นความหวังก็คงจะมาจากชนิดกีฬาพื้นฐานเดิมที่เราเคยคว้าเหรียญมาแล้ว อาทิ กรีฑา ยกน้ำหนัก วู๊ดบอล เทควันโดและมวย เป็นต้น ในขณะที่กีฬาชนิดอื่นที่คาดว่าจะเป็นตัวสอดแทรกเข้ามาได้แก่ ยิมนาสติก แฮนด์บอล ปันจักสีลัต บริดจ์ เป็นต้น
“เหนือสิ่งอื่นใดนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันในนามของตัวแทนจังหวัดพัทลุงในครั้งนี้จะเป็นนักกีฬาที่มาจากเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวพัทลุงอย่างแท้จริงและเพื่อให้เขาเหล่านั้นเกิดความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้บ้านเกิดสมาคมจึงมีจุดยืนและสปิริตอย่างแน่วแน่ที่จะไม่มีการดึงตัวนักกีฬาจากที่อื่นมาเป็นตัวแทนของจังหวัดอย่างเด็ดขาด และตนเองเชื่อว่ากีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 37 พัทลุงเกมส์จะเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์กีฬาระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ สมบูรณ์แบบภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน และจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมให้ประเทศชาติได้เป็นอย่างดี และในฐานะเจ้าภาพจึงฝากให้น้องๆนักกีฬาของจังหวัดทุกคนนอกจากจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยน้ำใจนักกีฬาภายใต้แนวคิด สามัคคี มีน้ำใจ สายใยมิตรภาพ แล้วขอให้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีและเป็นผู้เปิดประตูสู่เมืองแห่งการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนให้กับพัทลุงอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ก.ค. -10 ส.ค. 2565 ขณะที่กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 “เสกักเกมส์” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค. 2565
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.