ครับ….เมื่อวันเสาร์มีคนบอกว่า ขนลุก! เพราะ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเวทีปราศรัยที่สมุทรปราการ ชวนเสื้อแดงกลับบ้าน ผนึกกำลังกับพรรคเพื่อไทย
ทวงคืนอำนาจรัฐ!
แม้จะเป็นการขึ้นเวทีที่สมุทรปราการ แต่เสียงดังไปทั่วกรุงเทพฯ
เพื่อไทยปลุกคนเสื้อแดง กลับมาชิงอำนาจอีกครั้ง
แน่นอนครับ “ชัชชาติ” คือคนที่ได้ประโยชน์จากการขึ้นเวทีปราศรัยส่งสัญญาณไปถึงคนเสื้อแดงของ “อุ๊งอิ๊ง” เต็มๆ
เหมือนกับที่ มหาจำลอง ออกมาสนับสนุน รสนา โตสิตระกูล
กำนันสุเทพ ประกาศสนับสนุน สกลธี ภัททิยกุล
ส่วนประชาธิปัตย์ หนุน ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ แต่ชั่วโมงนี้ดูจะเงียบไปหน่อย เพราะวิกฤตศรัทธาในพรรคอาจเป็นดาบสองคม
ขณะที่พลังประชารัฐ ยังเขินที่จะหนุน อัศวิน ขวัญเมือง
ทั้งหมดนี้กับเวลาที่เหลือไม่ถึง ๑ สัปดาห์ คงไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆ แน่นอน ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คงเป็นไปตามโพล
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ถือเป็นการเลือกตั้งสนามใหญ่ ที่จะส่งผลไปถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ในระดับหนึ่ง
ฉะนั้นการวางแผน การกำหนดยุทธศาสตร์ พรรคการเมืองใหญ่ ต้องทำงานอย่างละเอียด มองไกลไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล การกุมอำนาจรัฐ
และเป็นไปตามแผนที่วางไว้ พรรคเพื่อไทยอุ้ม “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเวที เรียกหาคนเสื้อแดง
แม้ “ชัชชาติ” จะนำโด่งมาทุกโพล แต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นการประเดิม แลนด์สไลด์ในยุคที่ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
สร้างความมั่นใจในการ แลนด์สไลด์ เลือกตั้ง ส.ส.
ยุทธศาสตร์นี้้เหมาะกับสังคมยุคใหม่ที่ผู้คนเสพข่าวสารในโลกโซเชียล การสร้างและปั่นกระแสให้ผู้คนหลงเชื่อในเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก
หากสามารถทำให้เกิดอุปาทานหมู่ในมวลหมู่คนเสื้อแดงได้อีกครั้ง พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามเตรียมปาดเหงื่อได้เลย
แล้วจะเกิดแลนด์สไลด์อีกครั้งได้หรือไม่?
ลำพังโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันนั้นยากมาก ยกเว้นจะมีการซื้อยกพรรค ควบรวมพรรคการเมือง เหมือนที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เคยทำกับไทยรักไทย
แต่อาจมีช่องทางใหม่ โดยใช้ “ชัชชาติโมเดล”
“ชัชชาติ” มากับกระแสเชิดชูกันในโซเชียลเป็นหลัก เป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี เก่ง ฉลาด แต่ผลงานทางการเมืองในอดีตกลับไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ก็มีความพยายามนำ ร่าง พ.ร.บ.กู้ ๒ ล้านล้าน เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มาเคลมว่ากลั่นออกมาจากมันสมองของ “ชัชชาติ”
หากศาลรัฐธรรมนูญไม่คว่ำไปเสียก่อน ป่านนี้ไทยมีรถไฟความเร็วสูงใช้แล้ว
นั่นคือกระแสในโซเชียล ข้อเท็จจริงไม่ค่อยมีใครสนใจมากนัก เพราะส่วนใหญ่ถูกใจกับกระแสที่ปั่่นกันมากกว่า
ต่อให้ “ชัชชาติ” เก่งจริง แต่วิธีการตราร่างกฎหมายไม่ถูกต้อง ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดวินัยการเงินการคลัง เป็นสาเหตุให้ประเทศล่มจมได้
เพราะประชาชนต้องแบกหนี้นานครึ่งศตวรรษ
นักการเมืองที่เก่ง ต้องลงมือปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่เก่งในกระดาษ
มีเยอะครับเขียนโครงการมากมาย วาดฝันว่าไทยเทียบชั้นประเทศพัฒนาแล้ว
สุดท้ายอยู่ในกระดาษ
หาก “ชัชชาติ” เก่งจริงต้องแสดงแววให้เห็น
“ชัชชาติ” เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่ง ระหว่างวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
การอยู่ในตำแหน่งร่วม ๒ ปี ถือว่าไม่น้อยทีเดียว
สามารถเข็นผลงานออกมาเป็นรูปธรรม มากกว่าการนำเสนอโครงการในกระดาษ
เอาง่ายๆ ครับ….
เลือกตั้ง ส.ส.ปี ๒๕๕๔ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทยชูนโยบาย รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย
นโยบายนี้กลับถูกซุกไว้ในลิ้นชัก
รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ไม่คิดจะเหลียวมองด้วยซ้ำ
ไม่ต่างจากโกหกประชาชนครับ
ตอนหาเสียงนั่งยันนอนยันทำได้แน่
พอเป็นรัฐบาลร้องแบะๆ
ครับ…
อาจจะมีคนถูกหลอกอีกครั้ง
“เสื้อแดง” ระวังให้ดี
ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยวันนี้ จุดกระแสคนเสื้อแดงขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะคนเสื้อแดงคือฐานเสียงหลักของระบอบทักษิณมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ช่วงหลังมีแตกออกไป กลับขั้วย้ายข้างไปอยู่กับรัฐบาลประยุทธ์
ฐานเดิมของระบอบทักษิณที่ย้ายข้าง นอกจากคนเสื้อแดง ภายใต้การนำของ เสกสกล อัตถาวงศ์ และ อานนท์ แสนน่าน แล้ว ไม่ใช่ใครอื่น กลุ่ม สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในพลังประชารัฐ และนั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันนี่เอง
“อุ๊งอิ๊ง” ประกาศบนเวทีที่สมุทรปราการ
“วันนี้เราจะมารวบรวมทุกคนอีกครั้ง เพื่อกลับมาอยู่ด้วยกัน และเตรียมพร้อมกับศึกครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยกับดักจำนวนมาก
ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศดีกว่านี้ เราต้องได้อำนาจรัฐจึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ซึ่งบันไดขั้นแรกคือแลนด์สไลด์ พรรคจะชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย
แต่จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าพี่น้องเสื้อแดงไม่ร่วม และพี่น้องไม่อยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทย”
“…ดิฉันนับถือหัวใจพี่น้องเสื้อแดงที่ผ่านความเจ็บปวดมา แต่ยังมีหัวใจประชาธิปไตยและอยู่เคียงข้างมาตลอด เชื่อว่าทุกคนยังมีความหวัง
อย่าลืมเราคือครอบครัวเสื้อแดง ครอบครัวเพื่อไทย อุดมการณ์ของเรายังเหมือนเดิม เป้าหมายคือต้องการให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้โอกาสให้สิทธิ์บนพื้นที่ประเทศ ทำให้ประชาชนกลับมามีศักดิ์ศรีอีกครั้ง…”
ถือว่าคนเขียนบททำการบ้านมาดีครับ ทำให้ “อุ๊งอิ๊ง” ท่องไปพูดบนเวทีแล้วดูมีพลังสามารถดึงดูดคนเสื้อแดงได้พอควร
ไม่ทราบเป็นคนเดียวกันกับที่เขียนให้ “ทักษิณ” นำไปปราศรัยเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ในการจัดการชุมนุมรำลึก ๒ ปี เผาบ้านเผาเมืองหรือไม่ ถ้าใช่ก็ถือเป็นภาคต่อ
วันนั้น “ทักษิณ” บอกว่า
“พี่น้องนี่ทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนที่ขับเรือมาส่งผม แล้วผมจะต้องหันกลับไปขอบคุณคนที่ขับเรือมาส่งผม เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน ก็หวังว่าพี่น้องคงจะเข้าใจว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่ของเรามาสุดทาง แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกทำหน้าที่ ต้องดูต่อไปว่า ใครเบี้ยว ใครมากระชากประชาธิปไตยเราอีก ใครกำลังจะยัดเยียดความไม่เป็นธรรมต่ออีก”
วันนี้ได้เวลา ตระกูลชินวัตร ใช้งานคนเสื้อแดงอีกครั้ง
คนเสื้อแดงก็ได้เวลาทบทวนตัวเองเช่นกัน
ว่าเป็นอะไรในสายตา ตระกูลชินวัตร.
