เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เป็นที่ฮือฮาของแฟนกีฬาชาวไทยเมื่อ “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัย นักเทควันโด้สาวสวยฮีโร่เหรียญทองแดงโอลิมปิกประวัติศาสตร์เมื่อปี 2004 ผันตัวมาเป็นโปรโมเตอร์ระเบิดศึกศิลปะการต่อสู้ “เลเจ้นด์ ไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิป” ซึ่งมีทั้งคู่มวยไทยและรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสม โดยเริ่มจัดไปแล้ว 2 สนามในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อค่ำๆ วันเสาร์ที่ผ่านมาระเบิดศึกสนามที่ 3 ที่เวที ทรู อารีน่า หน้าห้างหัวหิน บลูพอร์ต ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักแฟนๆ เข้าร่วมชมกันคับคั่งเพราะได้จังหวะสถานการณ์โรคระบาด “โควิด-19” คลี่คลายพอดี นอกจากนี้ยังมีถ่ายทอดสดผ่านทีวีช่อง 8 (เลขช่อง 27) และมีไลฟ์สตรีมผ่าน Youtube ดูได้ทั่วโลกอีกด้วย
โดยไฟต์นี้ “น้องวิว” เรียกเสียงฮือฮาเพราะทุ่มทุนตั้งเวที 2 เวทีประชันกันเลย ทั้งเวทีมวยตามปกติ สำรับคู่มวยไทยในรายการ และสังเวียนกรง 8 เหลี่ยม สำหรับศึก MMA ปกติที่ผ่านมารายการอื่นๆ ก็จะตั้งเวทีไว้เวทีเดียว ใช้ร่วมกัน ขนาดรายการใหญ่อย่าง One FC ถ้ารายการไหนจัดคู่มวยไทยเยอะ ก็ตั้งเวทีมวย คู่มวย MMA ในรายการก็ต้องปรับตัวสู้กันบนเวทีมีเชือกกั้นแทน รายการไหนเน้นศึก MMA ก็ตั้งกรง คู่มวยไทยหรือคิกบ๊อกซิ่งในรายการก็ซัดกันในกรงเหมือนกัน แต่รายการนี้ “น้องวิว” ทุ่มทุนตั้งสองเวที แถมต้องวัดใจกับแฟนๆ ที่จะต้องหมุนเก้าอี้หรือยกเก้าอี้ตามมาด้วย แต่เท่าที่ดูแล้วแฟนๆ ก็สนุกสนานกันดี คู่แรกๆ ในรายการเป็นมวยไทย ก็ตั้งเก้าอี้ดูมวยไทยกันที่เวทีมวย พอครึ่งรายการหลังย้ายมาเป็นศึก MMA แฟนๆ ก็หมุนเก้าอี้ตามมาดู และดูเหมือนจะหนาแน่นกว่าคู่มวยไทยด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่ “น้องวิว” คงต้องยกระดับขึ้นอีกหน่อย ก็เห็นจะเป็นคุณภาพของนักมวย/นักสู้ในรายการ นักมวยไทยที่มาชกในรายการนั้นดูจะติดนิสัย “มวยไทยพิมพ์นิยม” แบบชก 5 ยกมา คือยก 1 ยก 2 ดูเชิง ทำกันยก 3-4 แล้วพอยก 5 ก็ติ๊ดชึ่งไม่เข้ากันแล้ว รายการนี้ชก 3 ยกแท้ๆ ยก 1 ก็ดูเชิง ยก 2 ถึงจะมีแอ๊คชั่นอะไรบ้าง พอยก 3 ก็ติ๊ดชึ่งกันแล้ว ในขณะที่มวย 3 ยกรายการอื่น เขาลุยกันตลอด 3 ยก ถูกใจแฟนๆ กว่าเยอะ ที่สำคัญนักมวยที่ขึ้นเวทีพอยก 2 ก็หายใจทางปากกันหมด ยก 3 นี่ออกอาวุธอย่างป้อแป้ คงต้องยกระดับนักมวยขึ้นหน่อย ส่วนนักสู้ MMA แม้จะพยายามไปหานักมวยปล้ำ นักยูโด นักยิวยิตสู มาขึ้นสู้ แต่ดูส่วนใหญ่จะตั้งใจยืนออกอาวุธสู้กันมากกว่าที่จะหาจังหวะลากลงมาทำเกมต่อสู้กันบนพื้น บางคู่พอลงมาบนพื้นจริงๆ ก็เห็นว่าทักษะการต่อสู้บนพื้นยังมีจำกัดมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะพยายามขึ้นคร่อมแล้วออกหมัด อย่างที่เรียกว่า กราวด์แอนด์พาวด์ Ground and Pound มากกว่าที่จะพยายามเอาชนะกันด้วยท่าล็อก การป้องกันตัวในเกมบนพื้นก็เห็นว่ายังไม่ชำนาญ เรียกว่าต้องหาความชำนาญกันอีกเยอะ
แต่ก็ต้องถือว่าเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักสู้หน้าใหม่ๆ ได้มีเวทีขึ้นสังเวียนสร้างกระดูกและเสริมทักษะ ให้ได้ลองของจริงในระดับที่สู้กันได้ ดีกว่าที่จะไม่มีโอกาสเลย หรือถ้าขึ้นไปเจอคนที่เก่งกว่าเยอะๆ ชำนาญกว่าเยอะๆ ก็จะเจ็บหนักเสียมวยกันซะเปล่าๆ ต้องถือว่าเวที “เลเจ้นด์ ไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิป” นี้เป็นเวทีที่ดีเลยทีเดียว การทุ่มทุนสร้างแสงสีเสียงก็อลังการ สร้างบรรยากาศให้แฟนๆ ได้เชียร์กันมันส์ แฟนๆ ที่ประทับใจน้องวิวจากโอลิมปิก คงตามเชียร์เอาใจช่วยให้รายการนี้ประสบความสำเร็จต่อไป
