ผู้นำผู้ตาม

เป็นปัญหาหนักอก นับวันยิ่งจะสาหัส ขยายวงกว้าง สร้างความตื่น ตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆกับวิกฤติโควิด-19 ในรอบนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ สังคม และภาวะความเป็นอยู่ของผู้คน อิทธิฤทธิ์ของมันยังทะลุทะลวงเจาะลงลึกไปถึงตัวตนในความเป็นมนุษย์ของแต่ละคน ไม่ว่าคนคนนั้นจะสร้างเกราะ สร้างภาพ วางกลไกป้องกันตัวเองไว้กี่ชั้นก็ตาม

และไม่เลือกด้วยว่าคนคนนั้นเป็นใคร มีสถานภาพอย่างไร และระดับไหนเสียด้วย

สังคมเรานั้นซึ่งประกอบด้วยผู้คนมากมายแม้ต้องการความเป็นอิสระ แต่ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ในความต้องการมีอิสระนั้น ก็ยังโหยหาอยากมี “ผู้นำ” ที่ดี มีความสามารถพอที่จะยอมรับ และไว้วางใจที่จะฝากดูแลชีวิตความเป็นอยู่ แม้จะช่วงเวลาหนึ่งก็ตาม

ซ้ำร้ายหากเกิดวิกฤติ สังคมมากด้วยปัญหา เผชิญหน้ากับความเลวร้ายที่สาหัส หนักหน่วง ก็ยิ่งต้องการผู้นำที่ดี มีความสามารถ มากเป็นเท่าทวีคูณ ไม่เช่นนั้นความย่อยยับจะเกิดขึ้น!

และเมื่อวิกฤติมาจริง ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะเราจะได้เห็นตัวตนจริงๆ สมองจริงๆ ความเป็นมนุษย์จริงๆ ว่า ดี เลว มีความสามารถ หรืออ่อนด้อยแค่ไหน เชื่อได้หรือไม่!!!

“ผู้นำ” มีอยู่ในทุกกลไกของสังคม ผู้นำกีฬาก็มีอยู่มากมาย ในแต่ละบทบาท สถานภาพ และกลไกทางกีฬาของชาติ

ซึ่งเราก็ได้เห็นได้สัมผัสและรับรู้การทำงานขยับขับเคลื่อนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่กระทบอยู่นี้ และมีผลอย่างหนักต่อวงการกีฬาโดยรวม

อย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่มี ดร.ก้องศักด ยอดมณี เป็นผู้ว่าการนั้น นับว่ามีภาระที่หนักมากกับช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ระบาดในรอบแรกๆมาถึงปัจจุบัน จากปิดๆเปิดๆ แข่งได้ไม่ได้ ต้องตอบสนองนโยบายรัฐ ออกระเบียบ สั่งการ ขอความร่วมมือ และประสานประโยชน์ให้เกิดกับกีฬาให้มากที่สุดในสถานการณ์คับขัน ยังต้องเร่งหาวัคซีนรองรับให้กับคนกีฬาที่มีภารกิจ และการเตรียมสถานที่สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม ทั้งเตรียมตั้งสปอร์ตควอรันทีนขึ้นมาเอง

ส่วน “ผู้นำ” ของสมาคมกีฬา ในฐานะของ นายกสมาคมกีฬานั้น ที่หนักหนาสาหัสที่สุดต้องยกให้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับปัญหาเงินส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ซึ่งต้องแบ่งให้กับสโมสรต่างๆที่ยังคาราคาซัง ค้างอยู่มากมาย และไม่สามารถบอกได้ด้วยว่า แต่ละสโมสรจะได้เท่าไหร่ และเมื่อไหร่

ขณะที่สมาคมกีฬาอื่นๆ ซึ่งดูจะสร้างความแตกต่างในยามนี้และไม่หยุดนิ่ง เดินหน้าล้อไปกับมาตรการการป้องกันของรัฐได้ดี ในกลุ่มที่โดดเด่นนี้ อาทิ แบดมินตัน ของ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล, จักรยาน พล.อ.เดชา เหมกระศรี, เทควันโด ผศ.พิมล ศรีกรม์ ฯลฯ

อย่างที่ว่า “ผู้นำ” ในภาวะวิกฤติ ย่อมต้องมีความสามารถมากกว่าช่วงปกติ จึงจะนำพาองค์กรของตนฝ่าฟันเอาตัวรอดไปได้ด้วยดี

ไม่ว่าจะอยู่จุดไหน ทุกคนคงมองเห็นและรับทราบถึงศักยภาพความเป็น “ผู้นำ” ในกลไกที่ท่านดำรงอยู่ ซึ่งไม่ต้องรอให้ใครบอก ไม่ต้องรอให้ใครประเมิน หรือกรอกหู รู้กันดีอยู่เต็มอกเต็มหัวใจว่าผู้นำคนนั้นๆเป็นเช่นไร

เมื่อสถานการณ์ผ่านไป ซึ่งหวังให้ผ่านไปโดยเร็ว อย่างน้อยก็คงจะจดจำกันได้ว่า “ผู้นำ” ที่อยู่กับเรานี้เป็นอย่างไร แล้ว “ผู้ตาม” อย่างเราๆ ท่านๆ จะทำอะไรกันได้บ้าง

อยากตามคนอย่างไร เมื่อเรามีโอกาสเลือก จงจดจำ และฉุกคิดกันด้วย…

“เบี้ยหงาย”