การันตี4ทอง!หวดสาวไทยชิงกันเอง

ความเคลื่อนไหวการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศ เวียดนาม เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในการแข่งขันเทนนิส ที่สนามฮานากา บั๊ก นิงห์ ณ เมืองบั๊ก นิงห์ ในประเภทหญิงเดี่ยว เป็นรอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีนักเทนนิสไทยผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ 2 คน

ผลปรากฏว่า “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ นักหวดสาวประจวบคีรีขันธ์ วัย 19 ปี มือ 703 ของโลก เอาชนะ ชาเนลล์ ฟาน เหวียน นักหวดเจ้าภาพเต็ง 1 ของรายการ 2-0 เซต 6-3 และ 7-6(2) อัญชิสา ทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นคนแรก จากนั้น “ลักส์” ลักษิกา คำขำ นักหวดไทย วัย 28 ปี ชาวจันทบุรี เต็ง 4 ของรายการ ก็เอาชนะ อเล็กซานดร้า เอล่า เต็ง 2 จากฟิลิปปินส์ 2-0 เซต 6 6-4, 6-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เช่นกัน นั่นทำให้ในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว จะเป็นการแข่งขันระหว่างนักเทนนิสไทยด้วยกันเอง

ขณะที่ในประเภท หญิงคู่ “แพทตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช วัย 18 ปี และ “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี วัย 17 ปี มือวางอันดับ 3 ของรายการ ล้มคู่แชมป์เก่า เบียทริซ กุมุลยา และ เจสซี่ พริสก้า รอมไพรส์ คู่เต็ง 1 ชาวอินโดนีเซีย 2-1 เซต 4-6, 6-2 และซูเปอร์ไทเบรก 10-8 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้เป็นคู่แรก จากนั้นอีกคู่ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช และ “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะมือวางอันดับ 2 ของรายการ ก็เอาชนะ จาไวริอาห์ บินตี นูร์ดิน และ ชาริอาห์ เอลีเซีย บินตี วาน ราห์มัน คู่มือวาง 4 ของรายการ จากมาเลเซีย 2-1 เซต 6-2, 5-7 และซูเปอร์ไทเบรก 10-5 ทำให้ทัพหวดสาวไทยจะได้ชิงเหรียญทองกันเอง

สำหรับก่อนหน้านี้ ทีมเทนนิสไทย ได้มาแล้ว 2 เหรียญทอง จากประเภททีมชายและทีมหญิง รวมกับ 2 ประเภทที่กำลังจะชิงฯ กันคือ หญิงเดี่ยว (ทองที่ 3) และหญิงคู่ (ทองที่ 4) จึงเป็นที่แน่นอนว่า ทีมเทนนิสไทย มี 4 เหรียญทองกลับบ้านเป็นอย่างน้อย

l “วิษณุ” คว้าทองที่ 3 ทัพยกน้ำหนัก

การแข่งขัน ยกน้ำหนัก ที่ไทยคว้าไปสองเหรียญทองก่อนหน้านี้ จาก ธรรณธร สุขข์เจริญ และ สุรจนา คำเบ้า โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในการชิงชัยรุ่น 67 กิโลกรัมชาย ที่ฮานอย สปอร์ต เทรนนิง เซ็นเตอร์ วิษณุ จันทรี นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย วัย 25 ปีที่มาแข่งซีเกมส์ครั้งแรก ก็สร้างผลงานยอดเยี่ยมทันที เริ่มจากยกท่าสแนชได้ 140 กิโลกรัม ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก มาฮึดในการยกครั้งสุดท้าย ทำน้ำหนักไป 172 กิโลกรัม รวมสองท่า 312 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนเหรียญเงิน ยาซีน โมฮัมหมัด จากอินโดนีเซีย ยกรวม 308 กิโลกรัม และเหรียญทองแดง ดินห์ ซวน ฮงจากเวียดนาม น้ำหนักรวม 306 กิโลกรัม

ขณะเดียวกันในรุ่น 55 กิโลกรัมหญิงระหว่าง ศานิกุณ ธนสาร หรือโสภิตา ธนสาร ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก 2016 ลงขับเคี่ยวกับ ฮีดิลิน ดิยาซ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ผลปรากฏว่าในท่าสเเนตช์ ซึ่งเป็นท่าถนัดของ ศานิกุณ ถือว่าทำได้ดี ยกได้93 กิโลกรัม เป็นอันดับที่ 1 ทำลายสถิติซีเกมส์ ส่วน ฮีดิลิน ดิยาซยกได้ 92 กิโลกรัม แต่ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ฮีดีลิน ดิยาซ กลับโชว์ฟอร์มแกร่งในท่าถนัด 3 ครั้งยกได้ 114 กิโลกรัม ขณะที่ศานิกุลแม้จะยกผ่านครั้งที่ 2 ที่ 110 กิโลกรัม แต่ยกไม่ผ่านในครั้งที่ 3ที่ 114 กิโลกรัม ทำให้ น้ำหนักรวม ฮีดีลิน ดิยาซ คว้าเหรียญทองด้วยน้ำหนักรวม 206 กิโลกรัม ส่วนศานิกุล ได้ที่ 2 ยกได้ 203 กิโลกรัม คว้าเหรียญเงินไปครอง และ เหรียญทองแดงเป็นนักกีฬาจากอินโดนีเซีย

l “มะตูม” ซิวทองปั่นไทม์ไทรอัล

การแข่งขันจักรยานประเภทถนน ที่เมืองฮัวบินห์ ประเทศเวียดนาม รายการ ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย ระยะทาง 39.56 กิโลเมตร มีนักกีฬาลงแข่งขัน 14 คน ทีมไทยส่ง “มะตูม” พันจ่าอากาศโท พีระพล ชาวเชียงขวาง และ “น็อต” สิบตำรวจเอก ยุทธนา มะโนลงชิงชัย ผลปรากฏว่า พีระพล ทำผลงานได้อย่างสุดยอด คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลา 48.32.404 นาที ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทัพนักปั่นไทย ส่วนเหรียญเงินเป็นของ เอแมน คาห์ยาดี จากอินโดนีเซีย 48.37.903 ชั่วโมง, เหรียญทองแดง มูฮัมหมัด นูร์ เอแมนรอสลี จากมาเลเซีย เวลา 48.58.547 ชั่วโมง ขณะที่ ยุทธนา ได้อับดับ 4 เวลา 49.18.304 นาที ส่งผลให้ทีมจักรยานถนนแข่งขัน 2 วัน คว้าไปแล้ว 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เมื่อรวมกับผลงานของทีมเสือภูเขาเท่ากับได้เหรียญรางวัลไปแล้ว3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง

l “โค้ชเช” ยังไม่พอใจแม้กวาด 5 ทอง

ความเคลื่อนไหวทัพเทควันโดทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม โดยทัพจอมเตะไทยกวาดมาได้5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง และประเภทพุมเซ่ 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

ล่าสุด “โค้ชเช” ชัชชัย ชเว หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเปิดเผยว่า ก่อนมาเราตั้งเป้าหมายไว้อย่างน้อย 3 เหรียญทอง ครั้งนี้เราสามารถทำได้ 5 เหรียญทอง แต่ทุกครั้งที่มีนักกีฬาพลาดเหรียญทองก็จะเสียดาย เช่น “ใบเตย” ศศิกานต์ ทองจันทร์ ที่แพ้ซัดเดนเดธเจ้าภาพในรอบชิงชนะเลิศ ก็เสียดายมาก ก่อนแข่งขันยังมั่นใจว่าจะได้เหรียญทอง ปัจจัยหลักน่าจะมาจากเสียงเชียร์ในสนามด้วย คิดว่าตัวนักกีฬาเองก็จะได้รับประสบการณ์จากตรงนี้ไป อยากให้กำลังใจ เพราะตัวเขาเองก็เล่นได้ดี และมีความมั่นใจ

“เราสามารถคว้ามาได้ 5 เหรียญทองตามเป้าหมายก็จริง แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ บางรุ่นแพ้แบบหน้าเสียดาย แต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย โดยนักกีฬาชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาเลือดใหม่ ที่ถูกดันขึ้นมาสู่ทีมชาติ ต้องขยันลงแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสม ขยับอันดับโลกขึ้นไป เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โดยต่อจากนี้มีการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย และ โคเรีย โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้ รออยู่”