ทัพคนพิการไทยเหินฟ้าลุยเอเชียนยูธฯ-กกท.ตั้งเป้าคว้า30เหรียญทอง – สยามกีฬา

ทัพนักกีฬาคนพิการดาวรุ่งของไทยเกือบ 200 ชีวิตออกเดินทางสู้ศึกเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่บาห์เรนแล้ว ประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการกกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ชี้ทัพไทยพร้อมแล้ว หลังที่ผ่านมาเตรียมทีมต่อเนื่อง อีกทั้งจัดเต็มทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา กายภาพ และจิตวิทยา เสริมให้นักกีฬาตั้งแต่ก่อนแข่งและระหว่างแข่ง ตั้งเป้าคว้า 30 ทอง ติด 1 ใน 5 ของการแข่งขัน เผยกรีฑาคนพิการแขนขาและวีลแชร์เรซซิ่ง ยังคงเป็นกีฬาความหวังหลักโกยเหรียญ

   ทีมนักกีฬาคนพิการเยาวชนทีมชาติไทย เหินฟ้าออกเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 ธ.ค.64 ที่เมืองมานามา ประเทศบาห์เรน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 ด้วยสายการบิน กัลฟ์ แอร์ เที่ยวบินจีเอฟ 166 โดยมี นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นหัวหน้าคณะ นำนักกีฬา โค้ช และเจ้าหน้าที่เกือบ 200 ชีวิต ออกเดินทางไปแข่งขัน 

    สำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยชุดนี้มีทั้งสิ้น 193 คน โดยมหกรรมนี้ ไทยส่งแข่งรวม 9 ชนิดกีฬา จาก 4 สมาคมกีฬา ได้แก่ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย โดย 9 ชนิดกีฬา ที่ส่งเข้าร่วม ประกอบด้วย แบดมินตัน , โกลบอล, ว่ายน้ำ, กรีฑา, บอคเซีย, ยกน้ำหนัก,  เทควันโด และวีลแชร์บาสเกตบอล  

     นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการกกท. เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมากกท.ประสานความร่วมมือกับทางสมาคมกีฬาคนพิการ และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ในการเตรียมการฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น โดยเราได้ส่งทีมนักกายภาพ นักจิตวิทยา และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าไปดูแลนักกีฬาทุกชนิดอย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างและดึงศักยภาพของนักกีฬาออกมาให้มากที่สุดในช่วงตลอดระยะเวลาการเตรียมทีม รวมถึงยังส่งเดินทางไปประกบนักกีฬาในทุกสนามแข่งขันครั้งนี้ด้วย ดังนั้นครั้งนี้จึงถือได้ว่าเรามีความพร้อมมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนความคาดหวังของเราในครั้งนี้ อยู่ที่  30 เหรียญทอง โดยกลุ่มกีฬากรีฑาคนพิการแขนขา และวีลแชร์ ซึ่งเราเป็นเจ้าเหรียญทองอยู่ คือกลุ่มกีฬาที่เป็นความหวังหลักของเราในครั้งนี้ 
 
    “เราได้วางแผนกับพาราลิมปิกไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยแล้วว่า นักกีฬาที่มีแววหรือมีความสามารถ เราจะส่งเสริมและผลักดันให้ก้าวมาเป็นกำลังของทีมชาติไทยในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศสต่อ ส่วนมาตรการป้องกันโควิด-19 เราได้ให้นักกีฬาฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้ว  ส่วนก่อนออกเดินทาง เราได้ให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนทำ RT-PCR เพื่อเพิ่มความมั่นใจ นอกจากนี้เราได้ส่งเจ้าหน้าที่พาราลิมปิกไปล่วงหน้า เพื่อประสานงานก่อน 3-4 วันแล้ว  ส่วนโปรแกรมเมื่อเดินทางไปถึง  
ช่วงวันที่ 29 พ.ย. – 1 ธ.ค. 64 จะทำการตรวจคลาสระดับความพิการ หลังจากนั้นก็จะแข่งขันวันที่ 2-6 ธ.ค.64 ต่อไป   

    ด้าน “ขวัญ” ขวัญสุดา พวงกิจจา นักกีฬาเทควันโดเจ้าของเหรียญทองแดง คลาส K44 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก.หญิง พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เผยว่า สำหรับทีมเทควันโดฝึกซ้อมอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ตนพยายามปรับเทคนิคที่ยังบกพร่องอยู่จากพาราลิมปิกเกมส์ให้ดีขึ้น ส่วนความยากง่ายของแมตช์นี้ ตนมองว่าไม่แตกต่างจากพาราลิมปิกเกมส์ เพราะตนเองก็ยังไม่เคยเห็นฟอร์มของคู่แข่งหลายๆคน ก็อาจจะทำให้จับทางลำบากอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเอเชียนยูธเกมส์ครั้งแรกของตนเอง แต่นี่คือเอเชียนยูธเกมส์ครั้งสุดท้ายของตนด้วย ก็จะพยายามตั้งใจและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด 
 
    อนึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย วางเป้าหมายทัพไทย ติด 1 ใน 5 ของการแข่งขัน  หลังครั้งก่อนในการแข่งขันที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ทัพไทยคว้ารวม 19 ทอง 15 เงิน 19 ทองแดง จบอันดับที่ 5 ในตารางเหรียญรางวัลรวม